ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่สามารถพกพาได้สะดวกและตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างครอบคลุม หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือการถ่ายภาพและวิดีโอ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูง ระบบป้องกันการสั่นไหว ปัญญาประดิษฐ์ช่วยปรับแสงสี กล้องวิดีโอและสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K หรือแม้กระทั่ง 8K ได้อย่างน่าประทับใจ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนมาก

เริ่มตั้งคำถามว่า กล้องวิดีโอแบบมืออาชีพยังจำเป็นอยู่อีกหรือไม่ในยุคที่สมาร์ทโฟนทำได้แทบทุกอย่าง? คำตอบคือ “ยังจำเป็นอยู่” และเหตุผลเบื้องหลังก็ลึกซึ้งกว่าที่หลายคนคาดคิดกล้องวิดีโอยังคงมีบทบาทสำคัญในหลายด้าน โดยเฉพาะในงานที่ต้องการคุณภาพระดับมืออาชีพ กล้องวิดีโอไม่ว่าจะเป็นงานผลิตรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ สารคดี งานแต่งงาน งานถ่ายทอดสดกีฬา หรือคอนเสิร์ต แม้สมาร์ทโฟนจะสามารถถ่ายวิดีโอได้ดีในระดับหนึ่ง

เครื่องมือระดับมืออาชีพที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้โดยง่าย

แต่ก็ยังมีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ เช่น ขนาดเซนเซอร์ที่เล็กกว่ากล้องวิดีโอโดยเฉพาะ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของภาพในสภาพแสงน้อยและการควบคุมระยะชัดลึก อีกทั้งกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ทำให้ผู้ถ่ายสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ เช่น เลนส์มุมกว้างสำหรับถ่ายภาพทิวทัศน์ เลนส์เทเลโฟโต้สำหรับถ่ายวัตถุไกล หรือเลนส์มาโครสำหรับเก็บรายละเอียดระยะใกล้ สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นข้อได้เปรียบของกล้องวิดีโอที่สมาร์ทโฟนไม่สามารถเทียบเท่าได้อีกประเด็นสำคัญคือเรื่องของระบบเสียง กล้องวิดีโอระดับมืออาชีพ

มักมีระบบรับเสียงที่เหนือกว่าทั้งในด้านคุณภาพและความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสียงภายนอก เช่น ไมโครโฟนไร้สายหรือมิกเซอร์เสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการผลิตเนื้อหาคุณภาพสูง กล้องวิดีโอโดยเฉพาะในกรณีที่ต้องการเสียงที่คมชัด ปราศจากเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม สมาร์ทโฟนแม้จะมีไมโครโฟนดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังขาดความยืดหยุ่นและคุณภาพระดับมืออาชีพที่กล้องวิดีโอสามารถให้ได้ กล้องวิดีโอยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องบันทึกเสียงจากหลายแหล่งพร้อมกันหรือควบคุมระดับเสียงอย่างละเอียด กล้องวิดีโอยังคงเป็นทางเลือกที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้

ผู้ว่าจ้างยังคงให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของอุปกรณ์ที่ใช้งาน

การควบคุมที่ละเอียดและแม่นยำก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กล้องวิดีโอมีความจำเป็นต่อผู้ผลิตสื่อมืออาชีพ กล้องวิดีโอไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ISO หรือการควบคุมโฟกัสแบบแมนนวล ซึ่งช่วยให้ผู้ถ่ายสามารถควบคุมภาพได้อย่างตรงกับความต้องการ แม้สมาร์ทโฟนจะเริ่มมีโหมดโปรหรือโหมดมืออาชีพ กล้องวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่จำกัดทั้งในด้านฟังก์ชันและความแม่นยำ กล้องวิดีโอระดับมืออาชีพสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย

เช่น การถ่ายในแสงน้อย การถ่ายต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือการถ่ายในสถานที่ที่มีการเคลื่อนไหวสูง โดยไม่เกิดปัญหาเรื่องความร้อนหรือการลดคุณภาพของวิดีโออุปกรณ์เสริมที่สามารถใช้งานร่วมกับกล้องวิดีโอก็เป็นอีกจุดเด่นที่สมาร์ทโฟนยังตามไม่ทัน เช่น ระบบกันสั่นแบบ gimbal หรือ steadicam ระดับมืออาชีพ กล้องวิดีโอระบบโฟกัสแบบไร้สาย ตัวกรองแสง ND filters หรือระบบการบันทึกภาพ RAW/Log ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการตัดต่อหลังการถ่ายทำ